วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แนะนำ 4 ขุมทรัพย์สื่อการเรียนภาษาอังกฤษ

สวัสดีครับ
งวด ที่แล้ว ผมได้แนะนำว่า สื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาอังกฤษ เป็นเสมือนขุมทรัพท์ ที่ช่วยให้เราฝึกภาษาอังกฤษ ให้ได้ทั้ง เข้าใจ และ ใช้เป็น การฝึกกับสื่อภาษาอังกฤษเหล่านี้ แม้ในระยะแรก ๆ เราอาจจะไม่ค่อยเข้าใจและอึดอัดใจที่ต้องเรียนกับมัน แต่ถ้าเราอดทนฝึกเรียนไปเรื่อย ๆ นอกจากเราจะค่อย ๆ เข้าใจมากขึ้น เราจะค่อย ๆ คิดเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจะตามมาด้วยการพูดเป็นภาษาอังกฤษ และเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ได้โดยไม่ต้องผ่านการแปลเป็นภาษาไทยในสมอง ผมคุยเรื่องนี้ไว้บ้างแล้วที่ลิงค์นี้
อันที่จริงสื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาอังกฤษ ในบล็อกนี้ก็มีให้ดาวน์โหลดอยู่มากพอสมควรในแต่ละบทความ และผมได้แนะนำแห่งดาวน์โหลดขนาดใหญ่ไว้ที่ลิงค์นี้
และวันนี้ผมมีขุมทรัพท์ สื่อการเรียนภาษาอังกฤษขนาดใหญ่ มาแนะนำอีก 4 ขุม ซึ่งเป็นบล็อก ไม่ใช่เว็บ
เรื่องที่ท่านควรรู้ก็คือเรื่องการค้นหาเรื่องที่ท่านต้องการ ซึ่งก็เหมือนบล็อก www.e4thai.com นี่แหละครับ จะมี 4 จุดให้ท่านหาเรื่องที่ท่านต้องการ คือ
1.บทความที่เขียนลงบล็อกมาตามลำดับ ในบล็อกภาษาอังกฤษ เรียกว่า archive
2.การจัดกลุ่มตามหมวดหมู่ของเนื้อหา มักอยู่ใต้หัวข้อ Labels, Categories, Contents หรือ Directory
3.บล็อกมักจะทำช่องให้เราพิมพ์คำค้นที่เรียกว่า Search
เชิญเข้าไปสำรวจ 4ขุมทรัพท์นี้ได้เลยครับ
บล็อกที่ [1]: http://book4fun.blogspot.com/
ในบล็อก book4fun.blogspot.com ผมขอแนะนำ ลิงค์ follow-me-bbc ข้างล่างนี้ครับ
บล็อกที่ [2]: http://englishphonics.blogspot.com/
eBooks (449)
Multimedia (127)
Grammar (104)
Exercises (88)
How-to (88)
Reading (79)
Writing (68)
Listening (59)
Teaching (48)
Printable (47)
Business (44)
Fictions (39)
Phonics (29)
Speaking (29)
Software (20)
Movies (13)
IT (7)
บล็อกที่ [3]: http://book4study.blogspot.com/
Gmat (6)
Grammar (18)
Gre (3)
History (1)
Ielts (16)
Toefl (13)
Writing (16)
บล็อกที่ [4]: http://just2download.blogspot.com/
C# ebook (26)
IELTS (30)
STORY (4)
TOEFL IBT (11)
TOEIC (7)

ข้อมูลที่แนะนำวันนี้ได้รับจากคุณพิทยากร ถนอมมาก ขอขอบคุณมากนะครับ
พิพัฒน์

ขอบคุณคุณพิพัฒน์เจ้าของบทความขอให้เจริญในหน้าที่และการงาน
สุขภาพแข็งแรงครับ 

คิดและงงเป็นภ.อังกฤษ ดีกว่าเข้าใจเป็นภ.ไทย

สวัสดีครับ
บล็อกนี้เป็นบล็อกเรียนภาษาอังกฤษ โดยผมได้รวบรวมสื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาไทยไว้ที่นี่
-ด/ล ตำราภาษาไทย สอน ภ.อังกฤษ 60 เล่ม- รวมเว็บไทย สอนภาษาอังกฤษ- เว็บไทยสอนอังกฤษ นร./นศ.ไทย
แต่ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สื่อที่นำมาเสนอที่เป็นภาษาอังกฤษมีมากกว่าที่เป็นภาษาไทยหลายเท่า สื่อเหล่านี้ที่จัดทำโดยฝรั่งนักวิชาการภาษาอังกฤษ มักเป็นสื่อที่มีคุณภาพดีกว่าสื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่คนไทยเขียน

อย่าง ไรก็ตาม บางท่านอาจจะบอกว่า ให้คนชาติเดียวกันเขียนตำราอาจจะดีกว่าก็ได้ เช่น English grammar ที่คนไทยเขียนอาจจะอธิบายให้คนไทยเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะคนไทยรู้นิสัยหรือแง่มุมการมองของคนไทย จึงจับจุดที่คนไทยมักจะงงและเขียนขยายหรือเน้นให้คนไทยเข้าใจได้ง่าย ๆ หรือในทำนองดียวกัน ตำรา Thai grammar ที่ฝรั่งที่มาอยู่เมืองไทยนาน ๆ เขียนขึ้นเพื่อให้ฝรั่งที่ต้องการศึกษาภาษาไทยได้ศึกษา ฝรั่งที่เรียนก็อาจจะเข้าใจได้ง่าย เพราะเขาเป็นฝรั่งด้วยกัน จึงเขียนอย่างคนรู้ใจกัน

ถ้าถามว่าคำอธิบายอย่างข้างบนนี้ถูกหรือผิด คำตอบของผมคือ ถูกแต่ไม่ถูก ! หมายความว่าอย่างไร ?ก็หมายความว่า เมื่อเราเรียนภาษาอังกฤษจากสื่อภาษาไทย ซึ่ง
-อธิบาย English Grammar เป็นภาษาไทย – คนเรียนก็เข้าใจ
-สอน reading โดยการแปลให้ฟัง หรือแปลให้อ่าน – คนเรียนก็เข้าใจ

คน ไทยหลายคนที่เรียนภาษาอังกฤษอย่างข้างบนนี้ก็เข้าใจ และพอใจ นี่คือสิ่งที่ผมบอกว่า “ถูก” แต่ที่ผมบอกว่า “ไม่ถูก” ก็เพราะว่า การเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลนั้นจะต้องมี 2 ส่วน คือ
1.เข้าใจ คือ อ่านเข้าใจ และฟังเข้าใจ
และ 2.ใช้เป็น คือ พูดเป็น และเขียนเป็น

ข้อ จำกัดของการเรียนภาษาอังกฤษกับสื่อการเรียนที่เป็นภาษาไทยก็คือ สื่อภาษาไทยอธิบายเนื้อหาภาษาอังกฤษด้วยภาษาไทย จึงทำให้ผู้เรียนหยุดอยู่เพียงแค่ความเข้าใจ พอสงสัยอะไรขึ้นมา ก็เข้าไปหาอ่านคำอธิบายที่เป็นภาษาไทย ถ้าเรียนอย่างนี้ไปนาน ๆ จะเกิดผลเสียที่หลายคนไม่รู้สึก คือ เราไม่ได้ฝึกคิดเป็นภาษาไทย ทำให้เราพูดและเขียนเป็นภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้

พูดง่าย ๆ ณ บรรทัดนี้ก็คือ ถ้า เราต้องการ “ใช้เป็น” คือ สามารถพูดและเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เราควรจะฝึกกับสื่อที่เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าสื่อนั้นยาก เราก็หาสื่อที่มันง่ายขึ้น หรือใช้สื่อที่ยากและง่ายสลับกันไป เมื่อเราอ่าน – ฟัง – ทำแบบฝึกหัดกับสื่อที่เป็นภาษาอังกฤษล้วน ๆ พวกนี้ แม้เราอาจจะเข้าใจไม่ได้ครบ 100 % แต่สิ่งที่เราจะได้โดยไม่รู้ตัวก็คือ เราได้คิดเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อได้คิดก็จะคิดได้... พูดได้... เขียนได้ ทีละน้อย โดยไม่รู้ตัว
การงงเป็นภาษาอังกฤษ อาจจะดีกว่าการเข้าใจเป็นภาษาไทย เพราะ การงงเป็นภาษาอังกฤษ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้ฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษ เพราะภาษาอังกฤษที่เราฝึกอ่าน-ฝึกฟัง มันวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในสมอง
แต่การเข้าใจเป็นภาษาไทย ยังไงยังไงมันก็เป็นภาษาไทยอยู่นั่นเอง มันเป็นความเข้าใจที่ใช้ไม่เป็น เพราะเราไม่ค่อยได้ฝึก: อ่านภาษาอังกฤษล้วน ๆ, ฟังภาษาอังกฤษล้วน ๆ, พูดภาษาอังกฤษล้วน ๆ, เขียนภาษาอังกฤษล้วน ๆ; เราชอบมี “ตัวช่วย” เป็นภาษาไทย
ใน บล็อกนี้ ผมได้นำสื่อการเรียนภาษาอังกฤษมากมายมาให้ท่านดาวน์โหลด และผมอยากให้ท่านคุ้นเคยกับมัน งงกับมัน อยู่กับมัน แม้ว่าในตอนแรก ๆ อาจจะไม่ค่อยเข้าใจมันก็ตาม เรื่องของเรื่องก็คือ การคิดและงงเป็นภาษาอังกฤษ ดีกว่าเข้าใจกระจ่างเป็นภาษาไทย
ใน ครั้งต่อไป ผมจะแนะนำสื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ท่านฝึกคิดและงงเป็นภาษาอังกฤษ ท่านอาจจะไม่ค่อยเข้าใจในตอนแรก แต่เมื่อฝึกไปเรื่อย ๆ ท่านก็จะค่อย ๆ ใช้เป็น คือพูดเป็นและเขียนเป็นครับ

เพิ่ม: ลิงค์ครั้งต่อไป[1445] แนะนำ 4 ขุมทรัพย์สื่อการเรียนภาษาอังกฤษ

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com


ขอบคุณคุณพิพัฒน์เจ้าของบทความขอให้เจริญในหน้าที่และการงานครับ

BBC มีทุกอย่างให้ศึกษาภาษาอังกฤษ และอื่น ๆ

สวัสดีครับ
ถ้าใครถามคำถามนี้:
สมมุติ ว่า ในโลกอินเตอร์เน็ตอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ท่านมีสิทธิเข้าเว็บได้เพียง 1 เว็บ และไม่มีสิทธิเข้าไปยังลิงค์ที่ออกนอกเว็บนั้น ท่านจะเลือกเว็บใดเป็นเว็บในดวงใจของท่าน ?

สำหรับผม สามารถตอบได้ทันทีเลยว่า เว็บของ BBC http://news.bbc.co.uk/ ครับ
สาเหตุก็เพราะว่า นอกจาก world news แล้ว BBC ยังมีอะไรต่ออะไรอีกมากมายมหาศาลให้บริการ ฟรี! ฟรี!

ผมขอชวนให้ท่านเข้าไปที่ลิงค์นี้ http://www.bbc.co.uk/a-z/
แล้วสำรวจดูว่า มีลิงค์ใดในเว็บนี้ที่ท่านชอบใจบ้าง

แต่ สำหรับผมที่ทำบล็อกนี้ และมีหน้าที่หาเว็บหรือลิงค์ดี ๆ เกี่ยวกับการศึกษาภาษาอังกฤษมาบริการท่านผู้อ่าน ต้องถือว่าเว็บ BBC เป็นขุมทรัพท์เลยครับ

และวันนี้ ผมเลือกหลายลิงค์จากเว็บ BBC มาเสนอท่านผู้อ่าน ข้างล่างนี้

BBC ภาษาไทย 1941 - 2006http://www.bbc.co.uk/thai/index.shtml

World News For Children
http://www.bbc.co.uk/podcasts/series/wnc/

Learning English Kidshttp://learnenglishkids.britishcouncil.org/

BBC Learning English
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/

British Council Learn English
http://learnenglish.britishcouncil.org/

News Bulletin For Kidshttp://www.bbc.co.uk/worldclass/bulletin_scripts.shtml

BBC Schools
http://www.bbc.co.uk/schools/

BBC School Radiohttp://www.bbc.co.uk/schoolradio/

BBC Learning
http://www.bbc.co.uk/learning/

BBC World Classhttp://www.bbc.co.uk/worldclass/

BBC Adults Learning
http://www.bbc.co.uk/learning/adults/

และถ้าท่านต้องการค้าหาเรื่องอื่น ๆ จากเว็บนี้ ก็ทำได้ง่าย ๆ โดยพิมพ์คำค้นไปที่ไปช่อง Search ด้านบนของเว็บ

แต่ผมมีข้อเสนอเพิ่มเติมครับ คือถ้าคอมฯที่ท่านใช้ติดตั้ง Google Toolbar ก็ให้ใช้บริการ “ค้นหาไซต์” หรือ “Search this site” แต่ถ้าไม่มี ก็ให้ไปที่ http://www.google.com/ หรือ http://www.google.co.th/ และพิมพ์คำค้น และต่อด้วย site:www.bbc.co.uk เช่น จะค้นหาเรื่องการเมืองไทย ก็พิมพ์ลงไปว่า Thai politics site:www.bbc.co.uk

เท่าที่ผมสังเกต การค้นโดยอาศัย Google บางครั้งได้ผลตรงตามที่ต้องการมากกว่าการค้นด้วย BBC Search เสียอีก

สำหรับท่านยังไม่คุ้นเคยกับเว็บของ BBC ผมขอชักชวนให้ท่านเข้าไปใช้บริการ เชื่อว่าท่านไม่ผิดหวังแน่ ๆ ครับ

และสำหรับท่านที่ต้องการบริการแปลศัพท์ ลองอ่านบริการที่ผมแนะนำไว้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ครับ
วิธีที่ 1: วางเมาส์บนำศัพท์ที่ต้องการรู้คำแปล - คลิก ที่นี่
วิธีที่ 2: คลิก ให้Google แปลศัพท์ทุกคำเมื่อท่องเน็ต(ง่ายจัง)
วิธีที่ 3: คลิก แปลศัพท์ให้ทุกคำ-ไม่ต้องเปิดดิก
แถม: Time for kids
http://www.timeforkids.com/TFK/

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

ฝึกศัพท์ 8,700 คำเพื่ออ่าน นสพ.อังกฤษ

สวัสดีครับ
ในการเรียนภาษา อังกฤษ หลายท่านอาจจะตั้งเป้าหมายในการฝึกต่างกันไป มากบ้างน้อยบ้าง แต่ถ้าพูดถึงเป้าหมายโดยทั่วไป ที่ไม่สูงเกินไป และไม่เตี้ยเกินไป
ที่คนยุคใหม่ หรือ คนรุ่นใหม่ ควรจะทำให้ได้ ผมคิดว่า มีอยู่ 2 อย่าง คือ

1.สามารถ พูดจาสื่อสารกับคนต่างชาติด้วยภาษาอังกฤษรู้เรื่อง คือไม่ต้องมีสำเนียงเป็นฝรั่ง ไม่ต้องคล่องแคล่วจนฝรั่งงง แต่ให้พอพูดกันได้รู้เรื่อง ในเรื่องพื้นฐาน
2.อ่านหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษรู้เรื่อง คล้าย ๆ กับอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย

นี่ เป็น 2 ทักษะที่คนยุคใหม่ หรือ คนรุ่นใหม่ ควรจะฝึกฝนให้เป็นทักษะประจำตนให้ได้ ถ้าทำ 2 เรื่องนี้ได้ การจะสนทนาหรืออ่านเรื่องอื่นที่ยากขึ้นไป ก็จะทำได้ไม่ลำบาก

สมัยที่ผมเรียนจบเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ตอนกรอกใบสมัครเข้าทำงาน ตรงช่องความสามารถพิเศษ ผมสามารถเขียนลงไปว่า พูด-อ่าน-เขียน ภาษาอังกฤษ ได้ดี แล้วก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่ถ้าเป็นการสมัครงานสมัยนี้ ผมคิดว่าการพูด-อ่าน-เขียน ภาษาอังกฤษ ได้ดี เป็นทักษะขั้นพื้นฐานที่นายจ้างมุ่งหวัง อาจจะไม่ได้ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษอย่างคนรุ่นผม คนจบปริญญาสมัยนี้จึงต้องเก่งกว่าคนรุ่นผมในด้านภาษาอังกฤษ

ไหน ๆ ก็พูดแล้ว ขอพูดต่ออีกสักนิดเถอะครับ จากที่ผมเคยเดินทางไปหลายประเทศในเอเชีย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ผมเห็นว่าทักษะในการพูดภาษาอังกฤษของคนไทย โดยฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ ยังต้องปรับปรุงอีกมากพอสมควรทีเดียว ผมกำลังเป็นห่วงว่า ในปี 2015 ซึ่งเป็นปีที่อาเซียน 10 ประเทศจะเป็นเขตไร้พรมแดนด้านแรงงาน คนจากประเทศอาเซียนอื่น ๆ ที่พูดภาษาอังกฤษได้ สามารถเข้ามาหางานทำในประเทศไทยได้โดยเสรี และนายทุนต่างชาติหรือแม้แต่นายทุนชาวไทยก็เถอะ ก็สามารถจ้างคนชาติไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องจ้างคนไทย ถึงเวลานั้น เราจะตกงานกันมากกว่าปัจจุบันอีกเท่าไรผมไม่อยากคิดเลย หรือแม้แต่ใครที่จะทำธุรกิจส่วนตัว ก็ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษอยู่นั่นเอง

ผม จึงเห็นว่า ณ วันนี้, พ.ศ. นี้, เราจึงควรพยายามเตรียมตัวให้มีทักษะภาษาอังกฤษด้านการสนทนา-เขียน-อ่าน ให้พอใช้งานได้หรือเอาตัวรอดได้
ในวันนี้ผมขอพูดเรื่องการอ่านหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง
ผม อยากให้ทุกท่านตั้งเป้าหมายไว้เลยว่า เราจะอ่านหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษรู้เรื่อง คล้าย ๆ กับที่อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาไทย ซึ่งในเมืองไทยก็มี 2 ฉบับใหญ่ ๆ คือ
http://www.bangkokpost.com/
http://www.nationmultimedia.com/

สำหรับ บางท่าน เป้าหมายนี้อาจจะดูไกลเกินไป แต่ผมเชื่อว่า ถ้าเราเริ่มออกเดินทางอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ เราก็จะมีวันนั้น วันที่เราถึงที่หมาย

และต้องถือว่าเป็นเรื่องโชคดีมากที่คุณวุฒิได้ ส่ง list คำศัพท์ที่ท่านได้รวบรวมไว้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ Bangkok Post จำนวนประมาณ 8,700 คำมาให้ โดยผมได้เขียนแนะนำไว้ที่ลิงค์นี้ ศัพท์ข่าว - "news dictionary"
วันนี้ ผมได้นำเอาคำศัพท์ใน list ของคุณวุฒิมา paste ลงในบล็อกนี้ ที่ 2 ลิงค์นี้ ลิงค์ละ ประมาณ 4,000 คำ
ลิงค์ที่ 1
ลิงค์ที่ 2

ท่านสามารถฝึกทบทวนคำศัพท์ข่าวจากหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ชุดนี้ได้หลายวิธี เช่น
1.ดูศัพท์อังกฤษ และคำแปลภาษาไทยไปเรื่อย ๆ เพราะคงจะมีทั้งคำที่ท่านรู้แล้ว ไม่แน่ใจ และยังไม่รู้ หรือลืมไปแล้ว

2.ดับเบิ้ลคลิกที่ศัพท์อังกฤษ-จะมีคำแปลภาษาไทยปรากฏทันที หลายคำแปล คลิกที่ไอคอนรูปลำโพงเพื่อฟังเสียงอ่านคำศัพท์ได้เลย
-ที่บรรทัดล่างลงมาจะมีคำว่า Usage examples จะมีตัวอย่างข้อความการใช้คำศัพท์ให้ท่านศึกษา
-บรรทัดล่างลงมาอีก จะมีคำว่า Web definitions จะแสดงความหมายของคำศัพท์จากเว็บอื่น ๆ
-บรรทัดล่างลงมาอีก ซึ่งน่าสนใจอย่างมาก ๆ จะมีคำว่า Show more Web definitions » , ให้คลิกตรงนี้ ท่านจะพบนิยามคำศัพท์, ไอคอนรูปลำโพงเพื่อคลิกฟังเสียงอ่าน, และประโยคหรือวลีตัวอย่างแสดงการใช้คำศัพท์ จาก Collins COBUILD Dictionary ซึ่งเป็นดิก อังกฤษ – อังกฤษ ชื่อดังระดับโลก ท่านสามารถใช้ดิกเล่มนี้เป็นแหล่งศึกษาคำศัพท์ได้ป็นอย่างดี

3.ถ้าท่านต้องการศึกษาประโยคตัวอย่างเพิ่มเติม ก็ให้ไปที่อีก 3 เว็บที่ผมให้ไว้แล้วในลิงค์ทั้งสอง

เอาละครับ ขอเชิญท่านเข้าไปศึกษา 8,700 คำศัพท์ที่พบบ่อยในการอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษได้เลยครับที่ 2 ลิงค์ข้างล่างนี้
ลิงค์ที่ 1
ลิงค์ที่ 2

ถ้า เส้นทางการเดินทางเพื่อให้อ่านหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษรู้เรื่องมัน เหงาหรือน่าท้อแท้ ลองจับกลุ่มเพื่อนเพื่อศึกษาด้วยกันซีครับ น่าจะทำให้การฝึกฝนภาษาอังกฤษมีชีวิตชีวามากขึ้น

ศึกษาเพิ่มเติม:
[224 เรียนศัพท์จากข่าวอังกฤษ ที่อธิบายเป็นภาษาไทย

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

ขอบคุณคุณพิพัฒน์เจ้าของบทความขอให้เจริญในหน้าที่และการงานครับ

เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ

สวัสดีครับ
เว็บข้างล่างนี้ เป็นเว็บแนะนำวิธีการสอนภาษาอังกฤษ ผมหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างต่อท่านอาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษ

จาก Google Search
เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ

เว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นสำหรับครูสอนภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ
http://www.sitesforteachers.com/
http://www.sitesforteachers.com/
http://abcteach.com/
http://teachers.teach-nology.com/
http://www.theteacherscorner.net/
http://www.lessonplanspage.com/
เว็บที่คล้ายกับ sitesforteachers.com
จาก Google directory
จาก Yahoo directory


ดาวน์โหลดหนังสือสำหรับครูสอนภาษาอังกฤษ
ลิงค์ที่ 1
ลิงค์ที่ 2

จากเว็บ YouTubehow to teach English

เว็บที่เคยแนะนำแล้วในบล็อกนี้:
เว็บไซต์สำหรับอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ

ก่อนจากผมขอแสดงความเห็นส่วนตัวสักนิดนะครับ คือผมมีความเห็นว่า ในฐานะผู้เรียน เราอย่าไปฝากความหวังเรื่องความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษไว้กับครูมากเกินไปเลยครับ เพราะอะไร? เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ
1.แม้แต่ภาษาอังกฤษที่ครูสอนเรานี่แหละ ครูก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นครูต่างชาติหรือครูไทย ที่ครูไม่ได้รู้ทุกเรื่องก็เพราะภาษานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เดินทางได้และ ชอบเดินทาง ยิ่งในโลกไร้พรมแดนเช่นทุกวันนี้ ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาของโลกมีวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นทุกนาที ครูจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ให้ความรู้แก่เรา แต่เราก็ต้องหาความรู้จากแหล่งอื่นด้วย เพื่อเพิ่มเติมในส่วนที่ครูอาจจะสอนพกพร่อง หรือแก้ไขในส่วนที่ครูอาจจะสอนผิดพลาด พูดง่าย ๆ ก็คือ ในขณะที่เราเรียนจากครูเราก็ต้องเป็นครูให้แก่ตัวเองด้วย

2.วิธีการที่ครูใช้สอนนักเรียนในห้อง ต่อให้ครูเตรียมการสอนมาดีเพียงใดก็ตาม มันก็อาจจะยังไม่เหมาะกับเราโดยสมบูรณ์ เพราะครูต้องสอนนักเรียนทั้งห้อง มิได้สอนเราคนเดียว บทเรียนที่ครูสอนจึงอาจเป็นคล้าย ๆ เสื้อที่เราใส่ไม่ตรง size คับไปบ้าง หลวมไปบ้าง, design ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง, ก็จำเป็นต้องใส่ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องหาเสื้อตัวใหม่ที่เหมาะใจเรา... ต้องหาด้วยตัวเอง

3.เรื่องภาษาเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจ และการสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจ ภาษาจึงมิใช่สิ่งที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวไม่เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน การที่คนบางคนอ่านและฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยรู้เรื่อง อาจจะมิใช่ไม่รู้ศัพท์ ไม่ชินสำเนียง แต่อาจจะเป็นเพราะสมาธิสั้นหรือความคิดสับสน จึงเข้าใจอะไรได้ยาก ส่วนในเรื่องการสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจนั้น อย่าว่าแต่ภาษาอังกฤษเลยครับ หลายคนแม้จะพูดภาษาไทยก็ยังทำให้คนอื่นเข้าใจได้ยาก เพราะความคิดที่ไม่เป็นระเบียบทำให้คำพูดขาดระเบียบตามไปด้วย ทำให้คนฟังงง เพราะฉะนั้นการเข้าใจหรือการสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจเรื่องราวผ่านภาษาอังกฤษ ทักษะการใช้ความคิดจึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าทักษะการใช้ภาษา

ทั้ง 3 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เรียนต้องขวนขวายพัฒนาตนเอง มิใช่รอแต่ให้ครูมาช่วยพัฒนา

พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com

ตัวอย่าง resume

วันนี้ ผมได้หาตัวอย่างการเขียนใบประวัติในการสมัครเข้าทำงาน หรือ resume และเทคนิคการเขียน resume มาให้ท่านศึกษาตามลิงค์ข้างล่างนี้ ตอนที่ผมเข้าไปหาเอกสารพวกนี้ในเน็ตก็พบว่าหาได้ง่าย และมีรายละเอียดมาก เช่น มีตัวอย่างแสดงให้เห็นด้วยว่า การเขียน resume สำหรับงานแต่ละประเภทก็มีสไตล์ต่างกันไป เป็นต้น
 http://www.bkkresume.com/